หลังจากที่มีข่าวออกมาข่าว จะมีการเปิดน่านฟ้าให้สายการบิน เริ่มกลับมาบินได้เหมือนเดิมในช่วงเดือนพฤษภาคมนี้ แต่ทว่าทางด้าน การบินไทย ได้แจ้งว่ายังไม่พร้อมที่กลับมาให้บริการเร็ว ๆ นี้ และอาจจะมีการขยายเวลาหยุดบินออกไปอีกการบินไทย จำกัด(มหาชน) เปิดเผยว่า
ในเวลานี้บริษัทกำลังประสบปัญหาฐานะทางการเงิน และปัญหาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ทำให้เตรียมขยายเวลาขอหยุดบินใน เส้นทางบินภายในประเทศ ต่อไปอีก 4 เดือน โดยจะกลับมาเริ่มทำการบินในวันที่ 1 ต.ค.63 เลื่อนจากแผนเดิมที่จะเริ่มบิน 1 มิ.ย.63
ส่วนเส้นทางบินระหว่างประเทศ จะขยายเวลาหยุดบินออกไปอีก 1 เดือน โดยจะกลับมาเริ่มทำการบินในวันที่ 1 ก.ค.63 เลื่อนจากแผนเดิมในวันที่ 1 มิ.ย.63 สำหรับเส้นทางบินระหว่างประเทศ ที่จะกลับมาเปิดทำการบินใหม่ในวันที่ 1 ก.ค. จะมีการลดจุดบินลงไป ให้เหมาะสมกับภาวะที่กำลังประสบอยู่ในเวลานี้
โดยมีการปรับลดจุดบินตามภูมิภาคดังนี้ ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิค จะยกเลิกการทำการบินไปยัง 17 เมือง ทำให้จุดบินปรับลดลงเหลือ 31 เมือง จากเดิม 48 เมือง โดยจุดบินที่ยกเลิก เช่น บริสเบน, เพิร์ท ประเทศออสเตรเลีย, โอ๊กแลนด์ ประเทศนิวซีแลนด์, พนมเปญ, ย่างกุ้ง, โฮจิมินท์, ฮานอย, คุณหมิง, เซี่ยเหมิน, ปีนัง, โคลัมโบ ประเทศศรีลังกา เป็นต้น
ส่วนภูมิภาคยุโรป จะยกเลิกทำการบินไปยัง 3 เมือง คือ มิลาน, โรม ประเทศอิตาลี และกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย ทำให้จุดบินปรับลดลงเหลือ 10 จุดบินจากเดิม 13 จุดบิน ส่วนอีก 10 เมืองที่เหลือในภูมิภาคยุโรปการบินไทยจะยังเปิดให้บริการตามเดิมคือ ลอนดอน, แฟรงก์เฟิร์ต, ปารีส, มิวนิก, สตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน, โคเปนเฮนเกน ประเทศเดนมาร์ก, ออสโล ประเทศนอร์เวย์, บรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม, เวียนนา ประเทศออสเตรีย และ ซูริก ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
ส่วนสายการบินในเครืออย่าง ไทยสมายล์ จากเดิมที่มีแผนว่าจะกลับมาบินอีกครั้งในวันที่1 มิ.ย. ก็เตรียมขยายเวลาหยุดทำการบินในเส้นทางระหว่างประเทศออกไปอีก 2 เดือน โดยจะกลับเริ่มทำการบินตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค.63
ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจปรับไปในทิศทางที่แย่ลง อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2560 จากอัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานตามราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่หดตัวสูง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานและอัตราเงินเฟ้อในหมวดอาหารสดยังคงเป็นบวกแต่ปรับลดลงจากเดือนก่อน ด้านตลาดแรงงานเปราะบางมากขึ้น สำหรับดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลงตามดุลการค้าที่ลดลงจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น และรายรับภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงมาก ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิจากทั้งด้านสินทรัพย์และด้านหนี้สิน อย่างไรก็ดี เสถียรภาพเศรษฐกิจโดยรวมยังอยู่ในเกณฑ์ดี
เศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 1 ปี 2563 หดตัวจากระยะเดียวกันปีก่อน โดยการแพร่ระบาดของ COVID-19 ส่งผลกระทบรุนแรงต่ออุปสงค์ทั้งต่างประเทศและในประเทศโดยเฉพาะภาคการท่องเที่ยวที่หดตัวสูง ด้านการส่งออกสินค้าที่ไม่รวมทองคำหดตัวต่อเนื่อง เครื่องชี้การบริโภคภาคเอกชนแผ่วลงตามรายได้และความเชื่อมั่นที่ปรับลดลงมาก โดยมีเพียงการใช้จ่ายในหมวดสินค้าจำเป็นที่ยังขยายตัวได้ ขณะที่การใช้จ่ายภาครัฐหดตัวต่อเนื่องจากความล่าช้าของ พ.ร.บ. งบประมาณปี 2563 ทั้งนี้ กิจกรรมทางเศรษฐกิจที่หดตัวส่งผลให้การผลิตภาคอุตสาหกรรมและเครื่องชี้การลงทุนภาคเอกชนหดตัวสอดคล้องกัน ด้านเสถียรภาพเศรษฐกิจ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากไตรมาสก่อนตามอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน และอัตราเงินเฟ้อในหมวดพลังงานที่เป็นผลจากฐานต่ำในปีก่อน ขณะที่ตลาดแรงงานเปราะบางเพิ่มขึ้น ด้านดุลบัญชีเดินสะพัดเกินดุลลดลง จากรายรับภาคการท่องเที่ยวที่ลดลงมาก ส่วนดุลบัญชีเงินทุนเคลื่อนย้ายขาดดุลสุทธิจากทั้งด้านสินทรัพย์และด้านหนี้สิน
เต็มแล้ว ! ออมสิน ปิดให้ลงทะเบียนชั่วคราว สำหรับ “เงินกู้ฉุกเฉิน” วงเงิน 50,000 บาท
หลังจากที่ ธนาคารออมสิน เปิดให้ประชาชนได้ลงทะเบียนเงินกู้ฉุกเฉินทั้งของอาชีพอิสระวงเงิน 10,000 บาท และผู้มีรายได้ประจำวงเงิน 50,000 บาท ล่าสุดมีการประกาศปิดรับลงทะเบียนในส่วนของผู้มีรายได้ประจำวงเงิน 50,000 บาทชั่วคราว เนื่องจากเต็มวงเงินแล้ว ตามที่ธนาคารออมสินได้เปิดให้บริการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายสำหรับผู้ที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 2 ประเภท คือ สินเชื่อผู้มีอาชีพอิสระ วงเงินกู้รายละไม่เกิน 10,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 20,000 ล้านบาท
และ สินเชื่อผู้มีรายได้ประจำ วงเงินกู้รายละไม่เกิน 50,000 บาท วงเงินสินเชื่อรวม 20,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มสภาพคล่องชั่วคราวในการดำรงชีวิตแก่ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากไวรัส COVID-19 โดยให้ลงทะเบียนผ่านเว็บไซต์ธนาคารออมสิน www.gsb.or.th เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ที่ผ่านมา
จนถึงเวลานี้ มีผู้สนใจลงทะเบียนยื่นเรื่องขอสินเชื่อทั้ง 2 ประเภทดังกล่าว เป็นจำนวนมากในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน โดยเฉพาะสินเชื่อผู้มีรายได้ประจำวงเงินกู้ต่อรายไม่เกิน 50,000 บาท ที่มีผู้ลงทะเบียน รวมทั้งสิ้น 608,956 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อประมาณ 30,447.80 ล้านบาท (ถ้าอนุมัติ 50,000 บาท ทุกราย) ซึ่งเกินวงเงิน 20,000 ล้านบาท ที่ ครม.ได้ให้กรอบไว้
ธนาคารออมสิน จึงได้ตัดสินใจทำการปิดระบบลงทะเบียนชั่วคราวเฉพาะสินเชื่อผู้มีรายได้ประจำ วงเงิน 50,000 บาทเท่านั้น ตั้งแต่วันที่ 23 เม.ย. 2563 เวลา 23.59 น. และจะรีบเร่งดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้ที่ลงทะเบียนมาเร็วให้เร็วที่สุด ซึ่งคาดว่าจะมีการนัดทำสัญญาในวันที่ 7 พ.ค. 63 และอาจจะเริ่มโอนเงินล็อตแรกในวันที่ 8 พ.ค. 63
ทั้งนี้สำหรับสินเชื่อผู้มีอาชีพอิสระ วงเงิน 10,000 บาท ยังสามารถลงทะเบียนได้ตามปกติ หรือหากต้องการติดต่อสอบถามรายละเอียด สามารถโทรได้ที่ Call Center 1115
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป