shoppingmode Apple กำลังอยู่ระหว่างการพัฒนาในการเปิดใช้งาน Dark Mode Toggle สำหรับเว็บไซต์บราวเซอร์ที่มีการใช้งานบนอุปกรณ์ต่าง ๆ ของบริษัท – Safari (1 มี.ค. 2565) ถึงแม้ว่า shoppingmode Apple จะมีการนำระบบ – คุณสมบัติในการใช้งานใหม่มาใน iOS 15 เป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น แต่เราก็ยังไม่เห็นในส่วนของ Dark Mode หรือโหมดที่ทำการปรับให้สามารถใช้งานได้ดีภายในสภาวะแสงสว่างน้อย อีกกรณีก็คือสำหรับคนที่ชอบสีดำ/โทนมืดบน Interface ของตัวเอง บนเว็บไซต์บราวเซอร์ Safari แบบเฉพาะส่วน (Dark Mode Toggle)
แต่ก็มีการค้นพบมาว่า Apple นั้น
กำลังจะอยู่ระหว่างการทดลอง และพัฒนาโหมดการใช้งานนี้สำหรับ Safari อยู่ อ้างอิงจากการรายงานของ 9to5mac – ได้มีการค้นพบถึง WebKit code ที่เปิดให้เข้าถึงได้ทั่วไป โดย WebKit นั้นถือว่าเป็นเบื้องหลังการทำงานของบรรดาบราวเซอร์ทั้งหมดบน iOS ซึ่งก็แหล่งข้อมูลที่ทำให้เราได้ค้นพบตัวเลือกของโหมดดังกล่าวภายใต้ “การเปลี่ยนแปลงแบบแผนสีของระบบตามความต้องการของ per-website” – “overriding the system color-scheme with a per-website preference.”
ที่ซึ่งคาดว่าจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถทำการเปิดปิดการใช้งานของ Dark Mode ภายในบางหน้าเว็บไซต์ได้ ถ้าหากว่าระบบยังทำการใช้งาน Light mode อยู่
Apple ได้ทำการเปิดตัวโหมดที่ว่าไปเมื่อตอนปล่อยตัวระบบปฏิบัติการ iOS 13 เปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถดำเนินการใช้งานโหมดดังกล่าวในการปรับ app interface ให้เข้ากับระบบได้ไปก่อนแล้ว แต่มาในครั้งนี้ ผู้ใช้งานปกติทั้งหลายจะสามารถใช้งานรูปแบบดังกล่าวได้บน Safari และสามารถทำการแก้ไขเว็บไซต์ที่ไม่แสดงผลตามการตั้งค่าได้ด้วย
นอกจากนี้แล้ว Apple ยังได้มีการพัฒนาในส่วนของระบบป้องกัน Modal Popups ที่จะปรากฏตัวในบางเว็บไซต์ รวมถึง API ใหม่ ที่จะทำการควบคุมกระบวนการอนุญาตเก็บข้อมูล (Cookies) บนเว็บไซต์ต่าง ๆ
WebKit ใหม่ของ Apple นั้น ได้ถูกขึ้นทะเบียนว่า “TBA” หรือเตรียมที่จะประกาศ ทำให้ก็ต้องมาดูกันว่ามันจะมาภายในระบบเวอร์ชั่นไหน 15.4 หรือจะเป็นภายใน iOS 16 เลย แต่ทั้งนี้แล้วก็ต้องมารอดู และพิจารณากันอีกทีหนึ่ง
คุณชานนท์กล่าวเสริม “ออปโป้หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการร่วมมือกันในครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งแก่น้องๆ และขอเชิญชวนพี่ๆ น้องๆ คนไทยร่วมกันส่งมอบสมาร์ทโฟนที่ท่านไม่ได้ใช้งานแล้วแต่ยังอยู่ในสภาพดี เพื่อช่วยมอบอนาคตทางการศึกษาแก่น้องๆ นักเรียน เพราะการศึกษาคือรากฐานสำคัญของการพัฒนาของมนุษย์และสังคม”
Back 4 Blood เตรียมปล่อย DLC แรก ภายในเดือนเมษานี้
หลังจากที่ประกาศไปเมื่อปีที่แล้ว ถึง DLC แรกของเกมส์ยิงซอมบี้ FPS Co-Op – Back 4 Blood สตูดิโอก็ได้ปล่อยช่วงเวลาในการปล่อยอย่างเป็นทางการแล้ว ที่จะมาภายในเดือนเมษายนนี้ (2 มี.ค. 2565) Turtle Rock Studios ได้ทำการประกาศอย่างเป็นทางการถึงช่วงเวลาในการปล่อยตัวเนื้อหาเสริม (DLC) สำหรับเกมส์ยิงซอมบี้ FPS Co-Op ที่เพิ่งปล่อยไปเมื่อปีที่ผ่านมา – Back 4 Blood โดยเนื้อหาเสริมที่ว่า – Tunnels of Terror จะมาภายในวันที่ 12 เมษายน
ผู้เล่นที่มีตัวเนื้อหาเสริมนี้แล้ว จะสามารถเปิดให้ผู้เล่นคนอื่นเข้าถึงได้ ตราบเท่าที่ยังอยู่ในกลุ่มเล่นเดียวกัน และทาง Turtle Rock ได้ให้สัญญาว่าจะไม่มีการปล่อยขายไอเทมภายในเกมส์ (microtransactions) แต่อย่างใด
นอกจากนี้แล้ว Turtle Rock Studios ยังได้เฉลิมฉลองจำนวนผู้เล่นรวมทั้งหมด (ตั้งแต่เกมส์เปิดตัวมา) ที่มีถึง 10 ล้านกว่าราย
ซึ่งก็ถือว่าเป็นหมัดหนักที่สุดของแฮ็คเกอร์ก็ว่าได้ เนื่องจากเทคโนโลยีนี้ถือว่ามีความก้าวหน้ามากกว่า FidelityFX Super Resolution ของทาง AMD ที่แม้ว่าจะทำงานต่างจากของ Nvidia แต่ก็ถือว่าดีกว่าที่จะสามารถรู้ความลับของคู่แข่งได้ ในส่วนของการประยุกต์ หรือพัฒนาต่อยอดนั้น ก็ต้องเป็นไปตามกฎหมายกันอีกทีหนึ่ง
DLSS ถือว่าเป็นเทคโนโลยีที่สำคัญสำหรับการเล่นเกมส์ในปัจจุบัน โดยเฉพาะยิ่งในตัวระบบเวอร์ชั่นล่าสุด ที่จะช่วยให้สามารถได้รับ frame rate ที่ดี โดยสละคุณภาพของภาพที่ได้เพียงแค่เล็กน้อย ดังนั้นแล้วมันจึงถือว่าเป็นความลับทางการค้าที่ Nvidia ไม่อยากให้ใครรับรู้มากเท่าไหร่
นอกจากข้อมูลของ DLSS แล้วนั้น ก่อนหน้านี้กลุ่มแฮ็คเกอร์ที่รับผิดชอบ – Lapsus ก็ได้ทำการปล่อยชื่อของการ์ดจอรุ่นต่อไปของ Nvidia ซึ่งก็มีการรายงานกันมาบ้างในช่วงที่ผ่านมา ในส่วนของข้อเรียกร้องของกลุ่มนี้นั้นก็คือ Nvidia ต้องทำการปลด hash rate limiter หรือตัวจำกัดการขุดของ Cryptocurrencies สกุล Ethereum ในการ์ดจอของบริษัท
ที่ก็ถือว่าเป็นแนวทางที่ก็ต้องมาดูกันว่า ค่ายเขียวจะมีการดำเนินการอย่างไร หลังจากที่ก่อนหน้านี้ก็ได้มีการพยายามดำเนินการตอบโต้ไปบ้าง แต่ก็ไม่มีผลสำเร็จเท่าไหร่
สำหรับกล้องรุ่นนี้ อาจไม่ได้หวือหวาอะไรมาก แต่โดยรวมก็สามารถใช้งานทั่วไปได้ดีเยี่ยม ด้วยกล้องหลัง 3 ตัว (Triple Camera) ที่มีกล้องหลัก Wide ความละเอียดสูงสุด 25 ล้านพิกเซล พร้อมรู้รับแสงแบบจัดเต็ม f/1.7 กับระบบโฟกัสแบบ PDAF
Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป